![](https://scontent-b-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-xap1/v/t1.0-9/10352317_733185326738328_1373041244881082107_n.jpg?oh=080530ad89357b90edddfe8a04eed2a4&oe=543751B1)
![](https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpa1/t31.0-8/10557601_733185303404997_6850328749316603051_o.jpg)
ด้านตะวันออกขององค์เจดีย์จะมีบัลลังก์ และมีเจดีย์องค์เล็กๆอีก ๔ องค์อยู่ทางทิศใต้ ต่อมาชาวบ้านได้ถากถางป่าปรับพื้นที่บริเวณดังกล่าว เพื่อสร้างอาคารเรียนโรงเรียนบ้านแทรง เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๑ (มีนายโพธิ์ จันทร เป็นครูใหญ่คนแรก) ทำให้บัลลังก์และเจดีย์องค์เล็กๆ ๔ องค์ถูกทำลายทิ้ง ซึ่งภายในบัลลังก์และเจดีย์องค์เล็กๆได้พบพระเครื่องเป็นจำนวนมาก โดยชาวบ้านได้นำไปไว้ที่วัดบ้านแทรง ปัจจุบันได้สูญหายหมดแล้ว
ส่วนยอดขององค์เจดีย์หักพังลงมา เนื่องจากถูกกระสุนที่ยิงจากเครื่องบินในสมัยสงครามอินโดจีน
![](https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xpf1/t1.0-9/10479465_733185316738329_6672526738986073009_n.jpg)
บริเวณข้างองค์เจดีย์จะมีศาลปู่ตา และต้นสำโรงใหญ่ ๑ ต้น นับเป็นองค์เจดีย์เก่าแก่ที่ศักดิ์สิทธิ์ เจดีย์ตาปราสาทเป็นที่เคารพและศักดิ์สิทธิ์มาก มีตำนานเล่าขานกันในหลายเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำสาบาน และสาบานตนต่อหน้าตาปราสาท หากผู้ใดไม่ทำตามที่ตนกล่าวก็จะมีอันเป็นไปทันที
ปัจจุบันเจดีย์ตาปราสาทแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของชาวบ้านแทรง ดังคำขวัญที่ว่า "แทรง แหล่งคนดี มีเจดีย์ตาปราสาท" หากผู้ใดที่มาบ้านแทรงแล้วไม่ได้ไปกราบไหว้เจดีย์ตาปราสาท ก็ถือว่ามาไม่ถึงบ้านแทรงโดยปริยาย