ทีมงานฝ่ายวิชาการสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ขอเรียนชี้แจงข้อสงสัย และตอบคำถามนำเสนอข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ดังนี้
ข้อสงสัย และข้อสังเกต
เฉลย ชาวบ้านดวนใหญ่ สามารถแต่งกายด้วยชุดเขมรได้ แต่ชาวบ้านบ้านดวนใหญ่ หมู่ 2 และชาวบ้านใน ต.ดวนใหญ่ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ นั้น ประกอบด้วยชนชาติพันธุ์ลาวส่วนใหญ่ ถ้าจะให้ดีควรแต่งกายที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชนตนเอง คือ ชนชาติพันธุ์ลาว… ครับ
1. "...จัดงานรอบสระสี่เหลี่ยมดงลำดวน สระน้ำโบราณของบ้านดวนใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองแห่งแรกของ จ.ศรีสะเกษ" จริงหรือ ?
เฉลย เมืองศรีสะเกษ ตั้งขึ้นหลังเมืองขุขันธ์ในยุคตากะจะสร้างบ้านแปลงเมือง จากบ้านปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวน จนได้รับโปรดเกล้าฯให้ยกฐานะขึ้นเป็นเมืองขุขันธ์ เมื่อ พ.ศ. 2306 ซึ่งเมืองศรีสะเกษตั้งขึ้นภายหลังเมืองขุขันธ์ เป็นระยะเวลา 19 ปีกล่าวคือ เมื่อปี พ.ศ. 2325 พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะบ้านโนนสามขา สระกำแพง ขึ้นเป็น “เมืองศีร์ษะเกษ” ซึ่งนี่ก็คือที่ตั้งเมืองแห่งแรกของ จ.ศรีสะเกษ จริงๆ ไม่ใช่ที่ รอบสระสี่เหลี่ยมดงลำดวน สระน้ำโบราณของบ้านดวนใหญ่ และโปรดเกล้าฯให้พระภักดีภูธรสงคราม (ท้าวอุ่น บุตรตากะจะ) ปลัดเมืองขุขันธ์ ขึ้นเป็นเจ้าเมืองศีร์ษะเกษ เป็นท่านแรกในราชทินนามใหม่ว่า “พระรัตนวงศา” ว่าราชการขึ้นต่อเมืองนครราชสีมา
2. “...โดยมีชาวบ้านดวนใหญ่แต่งกายด้วยชุดเขมรโบราณอย่างสวยงามมาร่วมพิธีในครั้งนี้…”
3. บ้านดวนใหญ่ในอดีตเป็นที่ตั้งแห่งแรกของเมืองศรีสะเกษ ที่บ้านสระสี่เหลี่ยมดงลำดวน โดยมีพระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน หรือตากะจะเป็นเจ้าเมืองศรีสะเกษคนแรก ก่อนที่จะย้ายเมืองไปตั้งอยู่ที่ อ.ขุขันธ์ และได้ย้ายเมืองไปตั้งอยู่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ในปัจจุบันนี้ ...จริงหรือ?
เฉลย เจ้าเมืองศีร์ษะเกษ ท่านแรกคือ พระรัตนวงศา (ท้าวอุ่น) ซึ่งทำเนียบ เจ้าเมืองศีร์ษะเกษ ที่สืบต่อกันมาตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ จำนวน 5 ท่าน ดังนี้
ท่านที่ 1 พระรัตนวงศา (ท้าวอุ่น) พ.ศ. 2325 – 2328
ท่านที่ 2 พระพิเศษภักดี (ท้าวชม ) พ.ศ. 2328 – 2368
ท่านที่ 3 พระวิเศษภักดี (ท้าวบุญจันทร์ ) พ.ศ. 2368 - 2424
ท่านที่ 4 พระวิเศษภักดี (ท้าวโท ) พ.ศ. 2424 – 2440
ท่านที่ 5 พระภักดีโยธา (ท้าวเหง้า ) พ.ศ. 2440 –2447
เมืองขุขันธ์ เมื่อปี พ.ศ. 2321 ย้ายมาจากวังหิน...จริงหรือ ?
เฉลย เมื่อปี พ.ศ. 2321 ก่อนการตั้งเมืองศีร์ษะเกษ(ในปี พ.ศ. 2325) หลังจาก “พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน” (ตากะจะ) เจ้าเมืองขุขันธ์ท่านที่ 1 ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว หลวงปราบก็ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ได้รับบรรดาศักดิ์ในราชทินนาม “พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน” ตำแหน่ง เจ้าเมืองขุขันธ์ท่านที่ 2 ปกครองเมืองขุขันธ์สืบต่อต่อมา อีกทั้งยังทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ท้าวอุ่นซึ่งเป็นบุตร “พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน”(ตากะจะ) เจ้าเมืองขุขันธ์ท่านที่ 1 ดำรงตำแหน่งปลัดเมืองขุขันธ์ ซึ่งในปีเดียวกันนี้เอง “พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน เจ้าเมืองขุขันธ์ ท่านที่ ๒ ” (หลวงปราบ หรือ เชียงขันธ์ ) ได้พิจารณาเห็นว่าบริเวณจุดที่ตั้งหลักเมืองและเมืองขุขันธ์เดิมไม่เหมาะที่จะพัฒนาให้รุ่งเรืองได้ อีกทั้งเพื่อให้เป็นไปตามที่เจ้าเมืองท่านที่ 1 คือ หลวงแก้วสุวรรณ หรือตากะจะได้ตั้งปณิธานเอาไว้เมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ว่าต้องการที่จะเลื่อนจุดที่ตั้งหลักเมืองและเมืองขุขันธ์อยู่ก่อนแล้ว ดังนั้น “พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน เจ้าเมืองขุขันธ์ ท่านที่ ๒ ” (หลวงปราบ หรือ เชียงขันธ์ ) จึงได้ทำพิธีและดำเนินการเลื่อนที่ตั้งเมืองขุขันธ์และหลักเมืองจากที่ตั้งเดิม คือ เลื่อนจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไปยังที่ตั้งแห่งใหม่บริเวณหนองแตระ มีหลักฐานคือ การฝังหลักเมือง ณ มุมวัดกลาง อำเภอขุขันธ์ ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ ในปัจจุบัน
เมืองขุขันธ์ เคยได้ย้ายเมืองไปตั้งอยู่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ในปัจจุบันนี้ ...จริงหรือ ?
เฉลย เมืองขุขันธ์ปรากฎนามและความเป็นเมืองมาตั้งแต่ยุคขอมโบราณ ณ บริบทที่ตั้งเดิมมานานกว่า 981 ปีมาแล้ว(ถ้านับจาก พ.ศ. 2561นี้ ย้อนอดีตกลับไป)
จารึกโบราณกล่าวถึงเมืองขุขันธ์ในอดีต เมื่อ พ.ศ. 1580 (พร้อมคำแปล 2ภาษา)
และต่อมา...
- ปีพุทธศักราช ๒๔๔๙ ย้ายเฉพาะศาลากลางเมืองขุขันธ์ จากที่ตั้งเดิม(อำเภอเมืองขุขันธ์) ไปตั้งบริเวณศาลากลางเมืองศีร์ษะเกษ แต่ยังคงใช้ชื่อ ศาลากลางเมืองขุขันธ์ ส่วนพื้นที่อำเภอเมืองขุขันธ์ยังอยู่ที่ตั้งเดิม
- ปีพุทธศักราช ๒๔๕๐ ยุบเมืองศรีสะเกษและเมืองเดชอุดม โดยให้อำเภอที่ขึ้นกับเมืองทั้งสองไปขึ้นกับเมืองขุขันธ์
- ปี พุทธศักราช ๒๔๕๙ โปรดเกล้าฯ เปลี่ยนชื่อเมืองขุขันธ์ เป็นชื่อจังหวัดขุขันธ์
- ปี พุทธศักราช ๒๔๖๐ เปลี่ยนชื่ออำเภอเมืองขุขันธ์ เป็น อำเภอห้วยเหนือ
- ปีพุทธศักราช ๒๔๘๑ เปลี่ยนชื่อจังหวัดขุขันธ์ เป็นชื่อจังหวัดศีร์ษะเกษ เปลี่ยนชื่อ อำเภอห้วยเหนือ เป็นชื่อ อำเภอขุขันธ์ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
คุณเชื่อหรือไม่ ? จังหวัดศรีสะเกษ ตั้งง่ายมาก
กล่าว คือ เมื่อปี พ.ศ. 2481 เปลี่ยนชื่อจังหวัดขุขันธ์ เป็นชื่อจังหวัดศีร์ษะเกษ (11 พ.ย. 2481) โดย พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนนามจังหวัด และอำเภอบางแห่ง พุทธศักราช 2481 ดู มาตรา 3 ซึ่งเน้นเปลี่ยนชื่อเพียงจังหวัดเดียว คือจากชื่อจังหวัดขุขันธ์ เป็น จังหวัดศรีสะเกษ
เอกสารอ้างอิง
- การตั้งเมืองศีร์ษะเกษ(พ.ศ. 2325)และยุบเมืองศีร์ษะเกษ(พ.ศ. 2450) ที่ลิงก์ http://www.mueangkhukhanculturalcouncil.org/2014/08/2325-2450.html
- เหตุการณ์สำคัญในยุค “พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน” ตำแหน่ง เจ้าเมืองขุขันธ์ท่านที่ 2(พ.ศ. 2321 - 2325) ที่ลิงก์ http://www.mueangkhukhanculturalcouncil.org/2014/07/blog-post_91.html
- พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนนามจังหวัด และอำเภอบางแห่ง พุทธศักราช 2481 ดู มาตรา 3 ซึ่งเน้นเปลี่ยนชื่อเพียงจังหวัดเดียว คือจากชื่อจังหวัดขุขันธ์ เป็น จังหวัดศรีสะเกษ ที่ลิงก์ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2481/A/658.PDF
- ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แบ่งเขตท้องที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ตั้งเป็นกิ่งอำเภอวังหิน(๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๐) ที่ลิงก์ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2530/D/045/1752.PDF