ขุขันธ์ เมืองเก่า ชนทุกเผ่าสามัคคี บารมีพระแก้วเนรมิตวัดลำภูคู่หลวงพ่อโตวัดเขียน กระอูบ เกวียน ครุน้อย เครื่องจักสาน ปราสาทโบราณเป็นศรี ประเพณีแซนโฎนตา...ต้นไม้จะอยู่ได้ก็เพราะราก ชาติจะอยู่ได้ก็เพราะวัฒนธรรม การทำลายต้นไม้ ง่ายที่สุด คือทำลายที่ราก การทำลายชาติไม่ยาก ถ้าทำลายวัฒนธรรม...ไร้รากเหง้า วัฒนธรรม วิถีชีวิต และจิตวิญญาณ ไร้เรา...

วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2562

อำเภอเมือง จังหวัดขุขันธ์ มีสถานะเป็นอำเภอเมือง ระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 - 24 เมษายน พ.ศ.2460 นับระยะเวลาได้เพียง 11 เดือน 5 วัน

          สถานะของอำเภอเมือง จังหวัดขุขันธ์ ที่ถูกย้ายเฉพาะศาลากลางเมืองขุขันธ์ จากที่ตั้งเดิม(อำเภอเมืองขุขันธ์) ไปตั้งบริเวณศาลากลางเมืองศีร์ษะเกษ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2450 แต่ยังคงใช้ชื่อ ศาลากลางเมืองขุขันธ์  ส่วนพื้นที่อำเภอเมืองขุขันธ์ยังอยู่ที่ตั้งเดิม  ทำให้อำเภอเมือง จังหวัดขุขันธ์ มีสถานะเป็นอำเภอเมือง  ระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 - 24 เมษายน พ.ศ.2460 นับระยะเวลาได้เพียง 11 เดือน 5 วัน หากเราพิจารณาดูตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา  ประกาศเรื่องเปลี่ยนชื่ออำเภอ  เล่ม ๓๔ หน้า ๔๐ และหน้า ๖๓ วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๔๖๐  ซึ่งลงนามโดยมหาเสวกเอก เจ้าพระยาสุรสีห์ วิสิษฐศักดิ์ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย  ประกาศมา ณ วันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๐  ด้วยเหตุผลว่าเพื่อให้เป็นที่สะดวกในทางราชการและเป็นที่เข้าใจแจ่มแจ้งแห่งประชุมชนทั่วไปว่าอำเภอใดคงเรียกตามชื่อเดิม อำเภอใดเปลี่ยนชื่อเรียกตามนามตำบล  จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ประกาศชื่ออำเภอ ทั้งที่คงชื่อเดิมและเปลี่ยนชื่อใหม่ ดังบัญชีท้ายประกาศนี้ใช้เป็นระเบียบในราชการสืบไป  

             อำเภอเมือง               เป็น อำเภอห้วยเหนือ
             อำเภอเมืองศีร์ษะเกษ  เป็น อำเภอศีร์ษะเกษ
             อำเภอราษีไสล        เป็น อำเภอคง
             อำเภอกันทรารักษ์   เป็น อำเภอน้ำอ้อม
             กิ่งบัวบุณฑริก         เป็น กิ่งโพนงาม
             อำเภออุทุมพรพิสัย คงเรียก อำเภออุทุมพรพิสัย
             อำเภอกันทรารมย์   คงเรียก อำเภอกันทรารมย์
             อำเภอเดชอุดม       คงเรียก อำเภอเดชอุดม





             มาถึงสมัยปัจจุบันนี้  อำเภอเมือง จังหวัดขุขันธ์ (ระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 ก่อนวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2460) หรืออำเภอห้วยเหนือ(ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2460-10 พฤศจิกายน พ.ศ.2481) จังหวัดขุขันธ์ ในอดีต ก็คือ อำเภอขุขันธ์ ณที่ตั้งเดิมในปัจจุบันนั่นเอง  ส่วนอำเภอศีร์ษะเกษ คือ อำเภอเมืองศรีสะเกษ ปัจจุบัน , อำเภอคง คืออำเภอราษีไศล , อำเภอน้ำอ้อม คืออำเภอกันทรลักษ์  จังหวัดศรีสะเกษ , กิ่งโพนงามคืออำเภอบุณฑริก  จังหวัดอุบลราชธานี  ซึ่งติดเขตแขวงจำปาศักดิ์ ประเทศ สปป.ลาว 
ปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวนโบราณที่สร้างด้วยอิฐ ตั้งอยู่ ณ วัดเจ็กโพธิพฤกษ์
อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ
             อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้คืออดีต  ที่ไม่มีวันหวนกลับ  แต่ขอให้ชาวจังหวัดศรีสะเกษ หรือ"เมืองขุขันธ์" "จังหวัดขุขันธ์" ในอดีต จงภาคภูมิใจที่บ้านเก่าเมืองแก่ของเราเป็นบ้านเมืองที่มีอารยธรรม  มีปราสาท  มีศิลาจารึกมีความเจริญต่อเนื่องมาอย่างไม่ขาดสาย  และมีพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลที่บรรพบุรุษของเราได้ก่อสร้างตัวเพื่อลูกหลายได้สืบทอดต่อๆกันมาจนถึงทุกวันนี้

เอกสารอ้างอิง : ราชกิจจานุเบกษา ประกาศเรื่องเปลี่ยนชื่ออำเภอ เล่ม ๓๔ หน้า ๔๐ และหน้า ๖๓ วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๔๖๐
ขอบพระคุณผู้เรียบเรียง : 
- นายประดิษฐ  ศิลาบุตร,2547.
- ดร.ปริง เพชรล้วน,2547.
ตรวจทาน : นายสุเพียร  คำวงศ์ ,26 มีนาคม 2560.

เมืองขุขันธ์ เมื่อราวปี พ.ศ. 2452 อยู่ในมณฑลตะวันออกเฉียงเหนือของราชอาณาจักรสยาม

เมืองขุขันธ์ เมื่อราวปี พ.ศ. 2452 อยู่ในมณฑลตะวันออกเฉียงเหนือ (MUNTON TAWAN OK CHIENG NUA)ของราชอาณาจักรสยาม ข้อมูลภาพจาก  แผนที่ของ ราชอาณาจักรของสยาม เมื่อราวปี ค.ศ. 1910 หรือราว พ.ศ. 2452 ซึ่งสำรวจและจัดทำขึ้นโดย กรมสำรวจสิงคโปร์ จากเวปไซต์หอจดหมายเหตุแห่งชาติของสิงคโปร์ (National Archives of Singapore)

Reference :

Survey Department, Singapore.1910.Map Of The Kingdom Of Siam And Its Dependencies.http://www.nas.gov.sg/archivesonline/maps_building_plans/record-details/f9409256-115c-11e3-83d5-0050568939ad.
(accessed September 4, 2019 at 05.06 a.m.).

ดร.วัชรินทร์ สอนพูด ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์
นายสุเพียร คำวงศ์ เลขานุการสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์

สนับสนุนโดย