-->
ขุขันธ์ เมืองเก่า ชนทุกเผ่าสามัคคี บารมีพระแก้วเนรมิตวัดลำภูคู่หลวงพ่อโตวัดเขียน กระอูบ เกวียน ครุน้อย เครื่องจักสาน ปราสาทโบราณเป็นศรี ประเพณีแซนโฎนตา...ต้นไม้จะอยู่ได้ก็เพราะราก ชาติจะอยู่ได้ก็เพราะวัฒนธรรม การทำลายต้นไม้ ง่ายที่สุด คือทำลายที่ราก การทำลายชาติไม่ยาก ถ้าทำลายวัฒนธรรม...ไร้รากเหง้า วัฒนธรรม วิถีชีวิต และจิตวิญญาณ ไร้เรา...

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การขอตั้งเมืองกันทรลักษ์และเมืองอุทุมพรพิสัย

  ปี พ.ศ. 2410 ในปีนี้เองที่พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน ท่านที่ 8 (ท้าววัง - พุทธศักราช ๒๓๙๕ - ๒๔๒๖ได้ขอกราบบังคมทูลขอตั้งบ้านลำแสนไพรอาบาล และบ้านกันตวดให้ยกฐานะขึ้นเป็นเมือง   พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงโปรดเกล้าฯ ตามที่ทูลขอ โดยทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะบ้านลำแสนไพรอาบาล  ขึ้นเป็นเมืองชื่อว่า เมืองกันทรลักษ์ พร้อมกับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ พระแก้วมนตรี (ท้าวพิมพ์  บุตรพระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ท้าววัง) เจ้าเมือง ขุขันธ์ท่านที่ 8) ให้มีบรรดาศักดิ์  ในราชทินนาม “พระกันทรรักษ์ภิบาล” ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองกันทรลักษ์เป็นท่านแรก  

พระกันทรรักษ์ภิบาล (ท้าวพิมพ์ หรือ พระแก้วมนตรี) เจ้าเมืองกันทรลักษ์ท่านแรก
เพื่อเป็นศูนย์รวมยึดเหนี่ยวใจควบคู่ศาลหลักเมืองควรได้สร้างอนุสาวรีย์ให้ท่าน
ทำให้เกิดความสมบูรณ์ในการเป็นเมืองกันทรลักษ์  เกิดความภาคภูมิใจ นำสู่การพัฒนา
เมืองกันทรลักษ์ให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

            แล้วยังทรงโปรดเกล้าฯ  ให้ยกฐานะบ้านกันตวด (ปัจจุบันหมู่บ้านนี้อยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา แถบแนวชายแดนจังหวัดพระวิหาร) ขึ้นเป็นเมืองอีกเมืองหนึ่งให้ชื่อว่า เมืองอุทุมพรพิสัย  โดยทรงโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ ท้าวบุตรดี (บุตรพระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน เจ้าเมืองขุขันธ์ท่านที่ 8 หรือท้าววัง ) ให้มีบรรดาศักดิ์ในราชทินนาม  “พระอุทุมพรเทศานุรักษ์” ในตำแหน่งเจ้าเมืองอุทุมพรพิสัยเป็นท่านแรกเช่นกัน โดยให้การปกครองของทั้งสองเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่นี้ขึ้นต่อเมืองขุขันธ์  ทั้งนี้ พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ท้าววัง)  ยังได้ถือโอกาสนี้ทูลเกล้าฯ ขอแต่งตั้ง  พระจำนงค์ (ท้าวแก้ว) เป็น “พระภักดีภูธรสงคราม  ตำแหน่งปลัดเมืองขุขันธ์ และขอตั้งพระบริรักษ์ภักดี (ท้าวอ้น) นายกองนอก  เป็นพระแก้วมนตรี  ตำแหน่งยกบัตรเมืองขุขันธ์   พระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงโปรดเกล้าฯ ตามที่ทูลขอ

ภาพแกะสลักนูนต่ำ ๑๕๐๐ ปี ที่ผามออีแดง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
(ถ่ายเมื่อ 25630718 )


            มาในปี พ.ศ. 2411 ผู้สำเร็จราชการฝรั่งเศส แห่งเมืองไซ่ง่อน ได้แจ้งต่อรัฐบาลไทยในการจัดตั้งเมืองทั้งสอง ว่ามีมูลเหตุให้เป็นที่สงสัยว่า การตั้งเมืองอุทุมพรพิสัย และเมืองกันทรลักษ์ อาจมีการรุกล้ำเขตแดนของเขมร พระเจ้าอยู่หัว ร.4 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้หลวงเดชอัสดร และขุนอินทร์อนันต์ ซึ่งเป็นข้าหลวง พร้อมด้วยพระยาทรงพล ออกไปทำการไต่สวนและตรวจสอบหลักฐานแล้วจัดทำแผนที่เพื่อนำส่งให้ราชการกรุงเทพฯ ทราบ  
อย่างไรก็ตาม  เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายและบานปลายไปมากกว่านี้ อีกทั้ง เป็นการตัดปัญหาแต่เบื้องต้นอันอาจจะเกิด จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระกันทรรักษ์ภิบาล เจ้าเมืองกันทรลักษ์  ทำการย้ายเมืองออกไปตั้ง ณ ที่ใหม่ คือ ตั้งที่บ้านเมืองลาวเดิม (ปัจจุบัน คือบ้านหลักหิน  ตำบลบักดอง  อำเภอขุนหาญ  จังหวัดศรีสะเกษ) และทรงโปรดเกล้าฯให้เจ้าเมืองอุทุมพรพิสัย คือ พระอุทุมพรเทศานุรักษ์  ทำการย้ายเมืองอุทุมพรพิสัย ไปตั้ง ณ ที่ใหม่ คือ ไปตั้ง ณ บ้านผือ (ปัจจุบัน คือบ้านผือใหม่  ตำบลเมือง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ) 

ดร.วัชรินทร์ สอนพูด ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์
โทร. 086-1308496
นายสุเพียร คำวงศ์ เลขานุการสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์
โทร. 098-5869569

สนับสนุนโดย