ขุขันธ์ เมืองเก่า ชนทุกเผ่าสามัคคี บารมีพระแก้วเนรมิตวัดลำภูคู่หลวงพ่อโตวัดเขียน กระอูบ เกวียน ครุน้อย เครื่องจักสาน ปราสาทโบราณเป็นศรี ประเพณีแซนโฎนตา...ต้นไม้จะอยู่ได้ก็เพราะราก ชาติจะอยู่ได้ก็เพราะวัฒนธรรม การทำลายต้นไม้ ง่ายที่สุด คือทำลายที่ราก การทำลายชาติไม่ยาก ถ้าทำลายวัฒนธรรม...ไร้รากเหง้า วัฒนธรรม วิถีชีวิต และจิตวิญญาณ ไร้เรา...

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การเปลี่ยนแปลงระบอบปกครอง พ.ศ. 2475

            ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475  ตรงกับรัชสมัยรัชกาลที่ 7 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็นระบอบประชาธิปไตย อันมีประมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข จึงได้มีการตราพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหาร   แห่งราชอาณาจักรสยาม โดยจัดระเบียบราชการส่วนภูมิภาค ออกเป็น จังหวัด อำเภอ ตำบล  และหมู่บ้าน ให้จังหวัดมีฐานะเป็นหน่วยบริหารราชการแผ่นดิน โดยมีตำแหน่งข้าหลวงประจำจังหวัด และกรมการจังหวัดเป็นผู้บริหาร มีผลทำให้ภาคและมณฑลถูกยุบไป ในปีเดียวกันนี้ได้มีการปรับปรุง แก้ไขพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินอีกครั้ง โดยปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวกับจังหวัด ให้จังหวัดมีสถานะเป็นนิติบุคคล อำนาจบริหารที่มีอยู่กับกรมการจังหวัด    ให้เปลี่ยนมาเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหาร  ให้มีกรมการจังหวัดเป็นที่ปรึกษา
  
            ต่อมาในปี พ.ศ. 2476 ประเทศไทยมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรก โดยเลือกทางอ้อม โดยการเลือกผู้แทนตำบล ไปเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกต่อหนึ่ง   ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2476 ปรากฏว่ามีผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ คนแรก คือ ขุนพิเคราะห์คดี ( อินทร์  อินตนัย) 

            ปี พ.ศ. 2478 มี  หลวงศรีราชรักษา (ผิว  ชาศรีรัฐ )  เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดขุขันธ์

ดร.วัชรินทร์ สอนพูด ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์
นายสุเพียร คำวงศ์ เลขานุการสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์

สนับสนุนโดย