ขุขันธ์ เมืองเก่า ชนทุกเผ่าสามัคคี บารมีพระแก้วเนรมิตวัดลำภูคู่หลวงพ่อโตวัดเขียน กระอูบ เกวียน ครุน้อย เครื่องจักสาน ปราสาทโบราณเป็นศรี ประเพณีแซนโฎนตา...ต้นไม้จะอยู่ได้ก็เพราะราก ชาติจะอยู่ได้ก็เพราะวัฒนธรรม การทำลายต้นไม้ ง่ายที่สุด คือทำลายที่ราก การทำลายชาติไม่ยาก ถ้าทำลายวัฒนธรรม...ไร้รากเหง้า วัฒนธรรม วิถีชีวิต และจิตวิญญาณ ไร้เรา...

วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การเล่นกันตรึม

  ในภาคอิสานตอนล่างซึ่งประกอบด้วย จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ  สุรินทร์  บุรีรัมย์  และจังหวัดนครราชสีมา  มีประเพณวัฒนธรรมบางอย่างแตกต่างจากจังหวัดอื่นๆของประเทศไทย  โดยเฉพาะในจังหวัดศรีสะเกษที่ขุขันธ์(อดีตเมืองขุขันธ์และจังหวัดขุขันธ์)  สุรินทร์  บุรีรัมย์   ซึ่งมีประชากรบางส่วนพูดภาษาท้องถิ่น คือภาษาขอมอีสานใต้  แต่คนกรุงเทพเรียกชนกลุ่มนี้ว่า “เขมรป่าดง”   ชนกลุ่มนี้มีประเพณีวัฒนธรรมเป็นของตนเองโดยเฉพาะเช่น  การเล่นมะม๊วด  การบายศรีสู่ขวัญ  การเล่นมโหรีปี่พาทย์ บุญประเพณีแซนโฎนตา   การร้องเจรียง  การเล่นกันตรึม เป็นต้น  ซึ่งประเพณีเหล่านี้เป็นวัฒนธรรมแสดงถึงความเชื่อ ความรักความสามัคคี บ่งบอกถึงวิถีชีวิตการทำมาหากินและการอยู่อาศัย  ซึ่งแสดงออกถึงการมีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของท้องถิ่นชาวอีสานใต้ 

  การเล่นกันตรึม ในปัจจุบันเป็นที่นิยมเผยแพร่อยู่ทั่วไปในหมู่ประชาชนแถบอิสานตอนใต้และคนไทยทั่วไป  การละเล่นกันตรึมเป็นการพัฒนามาจากการเล่นมะม๊วด  ซึ่งมีปี่อ้อ  มีกลองโทน  3  ใบ  มีกรับ  กลองโทน  ซึ่งทำมาจากดินเหนียว  ขึงหน้ากลองด้วยหนังงูเหลือม  หรือหนังตะกวด  มีเสียงดังตรึมๆ จึงได้เรียกการละเล่นที่มีการร้องประกอบเสียงซอ เรียกว่า  กันตรึม  มาจนถึงทุกวันนี้


  อุปกรณ์ประกอบการเล่นกันตรึมแบบโบราณ มีซออู้  ซอด้วง  กลองโทนกันตรึม ๓ ใบ  ปี่อ้อ  ฉิ่ง  ฉาบ  กรับ  เพลงที่นิยมเล่นจะเป็นทำนองสนุกสนาน  ทั้งแบบช้าและแบบรวดเร็ว  ส่วนการร้องประกอบดนตรีจะเป็นการร้องภาษาขอมอีสานใต้  ปัจจุบันมีทั้งแปลเป็นภาษาไทยด้วย เพื่อให้คนทั่วไปฟังรู้เรื่องและเข้าใจเนื้อหา  ซึ่งมีพุทธประวัติ  การทำมาหากิน  การเกี้ยวพา ของหนุ่มสาว  นิทานพื้นบ้าน  ประเพณีการแต่งงาน  สมัยก่อนนิยมเล่นกันตรึมในเทศกาลวันสำคัญทางศาสนา งานประเพณีท้องถิ่นแต่ปัจจุบันเล่นทุกโอกาสไม่จำเพาะเจาะจงเป็นวันสำคัญ 

  การแต่งกาย  นักร้องและนางรำจะนิยมแต่งแบบโบราณคือผู้ชายจะนุ่งโจงกระเบน   เสื้อคอกลม  มีผ้าขาวมาคล้องคอ  ส่วนผู้หญิงอาจจะนุ่งผ้าถุงเป็นไหม หรือผ้าโจงกระเบนก็ได้  มีผ้าสไบพาดเฉียงบ่า  การร้องรำจะเป็นท่วงทำนองแบบท้องถิ่นทางเขมร

   ในปัจจุบันกันตรึมมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาหรือประยุกต์มากขึ้นตามความนิยมของประชาชน  มีการนำเอากลองชุด  ออร์แกน  กีตาร์  มาประกอบ  นางรำก็ใส่ชุดหลากหลายทั้งแบบยาว  แบบสั้น  นักร้องก็แต่งตัวตามสบายที่มองดูแล้วสวยเด่น  การแสดงก็รวดเร็ว  กระชับมีแต่จังหวะเร้าใจ

   กันตรึมอำเภอขุขันธ์  เป็นวงกันตรึมสมัครเล่น   ผสมผสานกันหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย คณะดนตรีไทยและนักร้องชายจากสภาวัฒนธรรมตำบลสำโรงตาเจ็น   นักร้องหญิงจากโรงเรียนบ้านกันจานและผู้รำประกอบเพลงจากโรงเรียนขุขันธ์

ดร.วัชรินทร์ สอนพูด ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์
นายสุเพียร คำวงศ์ เลขานุการสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์

สนับสนุนโดย