การเล่าเรื่องเมืองขุขันธ์ในอดีต ถ้าหากขาดการเล่าถึงโรงฝิ่นของเมืองขุขันธ์แล้วก็คงจะไม่สมบูรณ์ เท่าใดนัก สมัยก่อนโรงฝิ่นใช่จะมีแต่ในกรุงเทพมหานคร หรือเมืองหลวงเท่านั้น แม้ตามหัวเมืองต่าง ๆ ก็มีโรงฝิ่นหรือสถานที่สูบฝิ่นเช่นเดียวกัน ฝิ่นมีความสำคัญมากน้อยเพียงใด
ก่อนที่จะเขียนถึงโรงฝิ่นเมืองขุขันธ์ จะขอนำพระประวัติพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ที่เกี่ยวข้องกับโรงฝิ่นมาเสนอต่อท่านผู้อ่าน ได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับฝิ่นควบคู่กันด้วย พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หรือพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ พระเจ้าลูกเธอในพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 พระองค์เคยเสด็จสืบราชการลับในโรงฝิ่น พระองค์ทรงปลอมเป็นราษฎรสามัญเสด็จไปตามโรงยาฝิ่น โรงขายสุรา โรงบ่อนต่าง ๆ แถวย่านนางเลิ้ง ในเวลากลางคืน โดยมีมหาดเล็กติดตามไปด้วย บางครั้งก็เสด็จเพียงลำพังพระองค์เดียว บางคืนก็เสด็จไปบรรทมคุยกันกับพวกสูบฝิ่นในโรงฝิ่น
ต่อมามีเจ้าพี่เจ้าน้องในราชวงศ์จักรีไปฟ้องเสด็จพ่อว่า พระองค์ประพฤติตนเป็นคนเลว นอนโรงยาฝิ่นกินตามถนน ทำให้เสื่อมเสียตระกูลราชวงศ์จักรี เมื่อในหลวงทรงทราบก็ฟังหูไว้หู ต่อมาในหลวงทรงปลอมพระองค์เป็นราษฎร เสด็จไปรถม้าพระที่นั่งเล็ก ๆ ไปจอดอยู่แถวบ่อนต้นมะขามย่านนางเลิ้ง แล้วเสด็จไปตรวจตามโรงยาฝิ่นพระโรงสุรา พอถึงหน้าโรงยาฝิ่น เจ้าพ่อก็เสด็จออกมาพบพอดีพร้อมกับนายเล่ผู้ติดตาม ในหลวงรับสั่งให้เจ้าพ่อตามไปที่รถม้า พอไปถึงในหลวงขึ้นไปประทับแล้ว เจ้าพ่อก็กราบลงที่ฝ่าบาท ในหลวงก็เทศนาว่าต่าง ๆ ให้เจ้าพ่อฟัง เมื่อจบแล้วเจ้าพ่อกราบทูลว่าในการที่ลูกปลอมแปลงตัวไปนอนตามโรงยาฝิ่นและเที่ยวไปตามตรอกถนนต่าง ๆ ในเวลากลางคืนนั้น ก็เพื่อจะสืบความลับของราษฎรว่า ใครคิดร้ายต่อพ่อและคิดขบถต่อบ้านเมือง กับลักขโมยปล้นกันที่ไหน เมื่อทราบก็จัดการปราบปรามขึ้นทันที ราษฎรและบ้านเมืองจะได้อยู่เย็นเป็นสุข ที่ต้องทนลำบากตรากตรำก็ด้วยเหตุนี้ เมื่อในหลวงทรงทราบความจริงต่าง ๆ ก็เสด็จกลับ รุ่งขึ้นทรงรับสั่งให้เจ้าพ่อเข้าเฝ้าได้พระราชทานสร้างสังวาลย์ฝังเพชร 1 สาย แล้วเจ้าพ่อก็เอานายเล่(นายเรือตรีเล่)ไปประเทศจีนซึ่งเป็นต้นกำเนิดของฝิ่น และฝิ่นก็มีอิทธิพลต่อประเทศจีนมิใช่น้อย เรื่องของฝิ่นทำให้จีนต้องทำสงคราบกับต่างประเทศจนเกือบจะสิ้นชาติแล้ว
สงครามฝิ่น ( OPIUM WAR ) สงครามระหว่างประเทศอังกฤษกับจีนเกิดขึ้นก่อนปี ค.ศ. 1842 (พ.ศ. 2385) สาเหตุเพราะข้าหลวงศุลกากรคนใหม่ของจีนประจำเมืองกวางตุ้ง ได้สั่งเผาโรงเก็บสินค้าฝิ่นของพ่อค้าชาวอังกฤษ เมื่อพ่อค้าชาวอังกฤษจะเข้าไปปฏิบัติงานในโรงค้าตามเดิมก็ถูกทหารชาวจีนยิงเสียชีวิต ทหารจีนได้ใช้เรือสำเภารบกับกองทหารเรืออังกฤษ ซึ่งจอดอยู่ที่น่านน้ำท่าเรือกวางตุ้ง ทหารเรืออังกฤษและรัฐบาลอังกฤษได้รบกับทหารจีนจนถึงปี ค.ศ. 1842 (พ.ศ. 2385) โดยจีนเป็นผู้แพ้สงคราม และในสงครามครั้งนี้จีนต้องยอมยกเกาะฮ่องกงให้แก่อังกฤษ ยอมให้อังกฤษตั้งศาลกงศุลในประเทศจีน ค.ศ.1483 (พ.ศ. 2386) และยอมเปิดเมืองท่าทางจีนใต้ เพื่อให้ชาวยุโรปเข้ามาทำการค้าขายได้อีก 5 แห่ง คือ กวางตุ้ง เอมอย ฟูเจา มิงโป และเซียงไฮ้
พิกัด GPSบน Google Map ของโรงฝิ่นเมืองขุขันธ์ในอดีต คือ 14.714381, 104.194057 หรือ 14°42'51.8"N 104°11'38.6"E
สำหรับอุปกรณ์ในการสูบฝิ่นนั้น เท่าที่ผู้เขียนได้รับฟังมา ถ้าเป็นราชสำนักจีน กระบอกสูบจะทำและตกแต่งด้วยวัสดุที่มีค่า เช่น ทองคำ หรือประดับด้วยอัญมณีต่าง ๆ ตามฐานะ สำหรับกระบอกสูบฝิ่นโดยทั่วไปเท่าที่ผู้เขียนเคยพบเห็น ทำด้วยกระปุกสังคโลกต่อด้ามด้วยไม้ไผ่ คล้าย ๆ กระบอกสูบกัญชา เมื่อสูบแล้วก็จะทำให้เกิดความเคลิบเคลิ้ม ใฝ่ฝัน และจินตนาการในเรื่องต่าง ๆ เมื่อถึงเวลาไม่ได้สูบก็จะทำให้หงุดหงิด คลุ้มคลั่ง อารมณ์ไม่ดี ชาวเขานิยมสูบกันมาก่อนออกไปทำงาน ด้วยเชื่อว่าสามารถป้องกันไข้และอาการเจ็บป่วยทั้งปวง ซึ่งแท้จริงแล้วก็เป็นยาเสพติดนั่นเอง
เมื่อ 7 – 8 ปีที่ผ่านมา ผู้เขียนเคยไปเที่ยวช่องจอม ด่านชายแดนไทย – กัมพูชา ได้พบกระบอกสูบฝิ่นที่ร้านขายของเก่า แขวนขายมากมาย ทำลวดลายวิจิตรพิสดารสวยงามมาก สอบถามคนขายได้รับคำตอบว่านำมาจากประเทศเวียดนาม ราคาตกอันละ 1,500 – 3,500 บาท แล้วแต่ ฝีมือและวัสดุที่นำมาตกแต่ง ถ้ามีไว้ในครอบครองเข้าใจว่าคงผิดกฎหมายเพราะเป็นอุปกรณ์ในการเสพ
ต่อมาในสมัยจอมพลสฤษ ธนรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้เลิกสูบฝิ่น แต่ก็ยังมีผู้ลักลอบสูบอยู่ตลอดมา หลังจากนั้นรัฐบาลประกาศให้ฝิ่นเป็นยาเสพติดผิดกฎหมายแล้วโรงฝิ่นก็ถูกปิด ชาวจีนที่เคยใช้โรงฝิ่นเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ พูดคุยก็เงียบเหงาเบาบางลง ญาติผู้ใหญ่ของผู้เขียน (ยังมีชีวิตอยู่) ได้เล่าให้ฟังว่าเวลาสูบฝิ่นควันของฝิ่นจะลอยไปติดเพดานด้านบน ซึ่งมีจิ้งจกเกาะอยู่ตามเพดานและได้กลิ่นของฝิ่นอยู่เป็นประจำ หลังจากไม่มีคนสูบ และไม่มีควันฝิ่นให้จิ้งจกดมแล้วสัตว์เหล่านั้นก็จะตกลงมาตายหมด จะเท็จจริงอย่างไรผู้เรียนได้รับฟังมาเท่านั้น
ปัจจุบันโรงฝิ่นยังตั้งเด่นให้เห็นอยู่ คนที่รู้เรื่องราวของโรงฝิ่นคงมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ฝิ่นได้หมดสิ้นไปจากสังคมคนสูบแล้ว มีแต่ยาบ้า ยาอี ยาเสพติดชนิดเม็ดสีต่าง ๆ เข้ามาแทนที่
ขณะที่เขียนเรื่องราวในอดีตนี้ พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศทำสงครามกวาดล้างยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศไทย ผู้เขียนเองขอเอาใจช่วยและเป็นกำลังใจ ให้ท่านมีชัยชนะในการทำสงครามกวาดล้างยาเสพติดครั้งนี้ เพื่อที่อนาคตของเยาวชนบางคน บางกลุ่มของชาติจะได้ไม่ตกเป็นทาสยาเสพติดอีกต่อไป
ขอบพระคุณผู้เขียน :
นายนพคุณ ภักดีทวนทอง(เถลิง ศรีสุภาพ),2547.