พิธีก่อกองทรายและสรงน้ำพระพุทธรูปในเดือน ๕ นี้ หรือที่เรามักจะได้ยินชาวบ้านที่พูดภาษาท้องถิ่นเขมร(ขแมร์)เรียกว่า /ดัก-ปเรียะฮ*-แค-แจด/ หรือ /ดัก-ปเรียะฮ*-ซร็อง-ตึก-แค-แจด/ โดยเฉพาะแล้วเฒ่าแก่บ้าน ทายกวัด และผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ประชุมลูกหลานแจ้งให้ทราบทั่วกันว่า ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๕ เป็นสรงน้ำพระพุทธรูปและก่อเจดีย์ทราย ในทุกครัวเรือน เฒ่าแก่หนุ่มสาว ไปพร้อมกันที่วัดเวลาบ่าย พระสงฆ์ท่านจำลงไปที่อุโบสถ เป็นประธานในพิธี ชาวบ้านจะช่วยกันทำหลักปักในลานวัด เป็นระยะ ๆ ห่างกันประมาณ ๓ เมตรต่อหลัก ปักประมาณ ๘ หลัก หน้าอุโบสถ เลือกเอาองค์ใดองค์หนึ่งประดิษฐานไว้ในหอสรง แล้วแห่ไปรอบ ๆ อุโบสถ แล้ววางไว้ตรงกลางหอสรง แล้วพระสงฆ์จะนำเอาน้ำที่ประชาชนหาบไปในขณะนั้น เทใส่บนค่างที่เตรียมไว้แล้ว น้ำก็จะไหลไปตามรางลงไปรดพระพุทธรูปข้างล่างพระพุทธรูปเป็นใต้ถุนหอสรง พวกเด็ก ๆ จะอาบเล่นกันสนุกสนาน พวกขนทรายก็ขนไป
พอสมควรแก่เวลาเฒ่าแก่จะบอกเลิกและกราบลาพระกลับบ้านกัน ถ้าวันใดไม่ได้ขนทราย ก็จะพากันไปเก็บดอกไม้ตามป่า วันแรกไปทิศตะวันออก ได้มาแล้วก็มาแห่รอบอุโบสถ ถวายพระ หนุ่มสาวก็สาดน้ำกันไป ผู้ใดมีสะบ้าก็จะนำสะบ้าไปเล่นในลานวัด แห่เก็บดอกไม้นี้เป็นขบวน มีฆ้อง โหม่ง ฆ้องกระแต และกลอง ฯลฯ แล้วแต่จะหาได้ บรรเลงไปด้วย แล้วตกแต่งกองทรายด้วยดอกไม้ให้สวยงาม ตัดกระดาษเป็นธงปักตามเจดีย์และปักธูปเทียนจุดสวยงามประมาณ ๑ ทุ่ม พระสงฆ์จะลงมาเจริญพระพุทธมนต์ทำพิธีอุปสมบทเจดีย์ทราย ตามพิธีพราหมณ์ รุ่งเช้าขึ้นวันแรม ๑๔ ค่ำ ชาวบ้านพร้อมเฒ่าแก่ก็จะนำอาหาร แล้วเข้าไปตักบาตรถวายพระสงฆ์ พระสงฆ์จะเทศนาอนิสงฆ์ก่อเจดีย์ทรายให้ญาติโยมฟัง ได้เวลาพระสงฆ์ก็จะยกพระพุทธรูปกลับคืนยังอุโบสถ