ขุขันธ์ เมืองเก่า ชนทุกเผ่าสามัคคี บารมีพระแก้วเนรมิตวัดลำภูคู่หลวงพ่อโตวัดเขียน กระอูบ เกวียน ครุน้อย เครื่องจักสาน ปราสาทโบราณเป็นศรี ประเพณีแซนโฎนตา...ต้นไม้จะอยู่ได้ก็เพราะราก ชาติจะอยู่ได้ก็เพราะวัฒนธรรม การทำลายต้นไม้ ง่ายที่สุด คือทำลายที่ราก การทำลายชาติไม่ยาก ถ้าทำลายวัฒนธรรม...ไร้รากเหง้า วัฒนธรรม วิถีชีวิต และจิตวิญญาณ ไร้เรา...

วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

ประวัติ "ต้นตาล ๙ ยอด ๙ พระยาแห่งเมืองขุขันธ์"



             เมื่อกล่าวถึง "ต้นตาลเก้ายอดแห่งเมืองขุขันธ์" ยากนักที่วัยรุ่นในสมัยนี้จะรู้จัก  แต่สำหรับคนวัยอายุประมาณ ๕๐ ปีขึ้นไปแถบชานเมืองขุขันธ์ ก็จะรู้จักกันดีเป็นส่วนใหญ่  "ต้นตาล ๙ ยอด ๙ พระยาแห่งเมืองขุขันธ์" เป็นต้นตาลที่มีความแปลก  เพราะลำต้นเดียว  แต่แตกแขนงลำต้นออกเป็น ๙ แขนง ๙ ยอด เคยมีชีวิตและยืนต้นตระหง่านร่วมสมัยมาตั้งแต่่กำเนิดเมืองขุขันธ์  ณ หมู่บ้านตาดม  หมู่ที่ ๘  ตำบลห้วยใต้ อำเภอขุขันธ์   จังหวัดศรีสะเกษ
             เจ้าของที่ในอดีตเมื่อสมัยที่ต้นตาลเก้ายอดยังคงยืนต้นมีชีวิตอยู่ คือ นางเภา  เกษหอม ช่วงนั้นมีนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศแวะเวียนมาเที่ยวชมต้นตาลเก้ายอดเมืองขุขันธ์อย่างไม่ขาดสาย ผู้มาแวะชมต่างบริจาคค่าชมต้นตาลเก้ายอดคนละ 50 สตางค์ เพื่อเป็นค่าดูแลบำรุงรักษาตาลเก้ายอดให้คงอยู่ยืนต้นนานๆ


คุณพงษ์เทพ สุวรรณแสงศรี เคยได้มาเที่ยวชม
ต้นตาล 9 ยอด เมื่อปี พ.ศ. 2508



นายอัน  เกษหอม อายุ ๕๙ ปี(ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ นี้) ชาวบ้านตาดม หมู่ที่ ๘ ตำบลห้วยใต้  อำเภอขุขันธ์  จังหวัดศรีสะเกษ ได้ให้คงามอนุเคราะห์ช่วยชี้จุด และยืนบอกพิกัดของต้นตาลเก้ายอดที่เคยยืนต้นมีชีวิตอยู่ ในช่วงที่ท่านอายุประมาณ ๘ - ๑๐ ขวบ
 


         เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ขณะที่ นายอัน เกษหอม(เกิด พ.ศ. ๒๔๙๘) มีอายุได้ ๘ ขวบ ท่านบอกว่าเคยได้ช่วยกันไปตักน้ำโดยใช้ครุไม้ไผ่ที่ยาด้วยชันและหาบน้ำมาทำพิธีขอฝนกับต้นตาลเก้ายอดในช่วงเทศกาลสงกรานต์  ซึ่งชาวบ้านตาดมและหมู่บ้านละแวกใกล้เคียงต่างมาร่วมกันทำพิธีนี้ทุกปี โดยชาวบ้านจะนิมนต์พระมาเจริญนำพระพุทธมนต์ ณ ศาลากลางหมู่บ้านเพื่อให้ชาวบ้านทุกครัวเรือนได้อยู่เย็นเป็นสุข เสร็จพิธีแล้วจะพากันหาบน้ำที่ผ่านการทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์กลางหมู่บ้านนำมารดที่โคนต้นตาลเก้ายอดในยามหน้าแล้งช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้ต้นตาลได้รับความชุ่มชื้นจากน้ำและยังคงอยู่ได้นานคู่กับหมู่บ้านตลอดไป  
นายสวี  บุญขาว อายุ ๕๗ ปี(ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ นี้) ชาวบ้านตาดม
หมู่ที่ ๘ ตำบลห้วยใต้  อำเภอขุขันธ์  จังหวัดศรีสะเกษ กำลังโชว์ภาพถ่ายแห่งประวัติศาสตร์ของ
ต้นตาลเก้ายอดเมืองขุขันธ์ที่เคยยืนต้นมีชีวิตอยู่ มีช่างจากต่างถิ่นถ่ายไว้
ขณะที่ท่านอายุประมาณ ๖ ขวบ
ภาพนี้เป็นภาพถ่ายของ นายอินทร์  แก้วประภา 
ถ่ายคู่กับต้นตาลเก้ายอดแห่งเมืองขุขันธ์  ณ บ้านตาดม 
ปัจจุบัน นายอินทร์ แก้วประภาได้ย้ายครอบครัวมาอาศัย
อยู่ที่บ้านนิคมซอย ๖ หมู่ที่ ๕ ตำบลนิคมพัฒนา 
อำเภอขุขันธ์  จังหวัดศรีสะเกษ 
และท่านได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว...

             แต่อนิจจาเอ๋ย...อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา : สรรพสิ่งไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน ซึ่งก็คือหลัก "ไตรลักษณ์" ในทางพระพุทธศาสนา หมายถึง ลักษณะสามัญ ๓ ประการของสรรพสิ่งทั้งปวงซึ่งเป็นเหมือนกฎธรรมชาติ ครอบงำสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตทุกชนิดที่เกิดมีอยู่ในสังสารวัฏนี้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สามัญลักษณะ ประกอบด้วย ๓ ประการ คือ อนิจจา ทุกขตา และอนัตตตา อธิบายให้เข้าใจง่ายดังนี้
              ๑. อนิจจา คือ ความไม่คงที่ ไม่ถาวร หมายความว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกไม่มีอะไรเที่ยงแท้
              ๒. ทุกขตา คือ ความเป็นทุกข์ของสิ่งทั้งปวง คือ ความทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้
              ๓. อนัตตตา คือ ความเป็นของไม่ใช่ตัวตน  ไม่มีอะไรที่เป็นตัวเรา และไม่มีอะไรที่เป็นของเรา
ภาพนี้เป็นภาพถ่ายของต้นตาลเก้ายอดเมืองขุขันธ์ 
ซึ่งสมัยนั้น ชาวบ้านที่มีฐานะทางการเงินแถบเมืองขุขันธ์บางท่าน
ได้จ้างให้ช่างถ่ายภาพถ่ายไว้และจัดทำเป็น ส.ค.ส.
ส่งมอบให้กันในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี

             เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๘ หลังเทศกาลสงกรานต์ประจำปีของหมู่บ้านตาดมได้ไม่นาน ได้มีเหตุพายุสลาตัน(พัดมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน ) พัดรุนแรงมาก ผ่านมาถล่มหมู่บ้านตาดมจนได้รับความเสียหายกว่า ๕๐ หลังคาเรือน(ขณะนั้นบ้านตาดม มีบ้านเรือนของชาวบ้านทั้งหมู่บ้านประมาณ ๖๐ หลังคาเรือน)  ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกันโดยถ้วนหน้ากัน รวมทั้งต้นตาลเก้ายอดก็ได้รับความเสียหายที่แขนง ๓ ยอดทางทิศใต้ได้ถูกลมพัดแรงและฉีกขาดตกลงมาข้างโคนต้น  ตั้งแต่นั้นมา ต้นตาลเก้ายอดก็ประดุจดั่งคนเราในวัยชราที่กำลังเจ็บป่วยหนัก และแล้วต้นตาลเก้ายอดของเมืองขุขันธ์ก็ได้ล้มตายลงไปโดยสิ้นเชิงในช่วงต้นปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ในที่สุด ยังคงเหลือไว้แต่เพียงภาพถ่ายแห่งอดีตมาจนถึงปัจจุบัน

ขอบคุณที่มาของข้อมูล : นายอัน  เกษหอม อายุ ๕๙ ปี และนายสวี บุญขาว อายุ ๕๗ ปี(ในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ นี้) ชาวบ้านตาดม หมู่ที่ ๘ ตำบลห้วยใต้ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ 

ผู้เรียบเรียงเนื้อเรื่อง​ : นายสุเพียร  คำวงศ์ สภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ (๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๗) 

ดร.วัชรินทร์ สอนพูด ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์
นายสุเพียร คำวงศ์ เลขานุการสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์

สนับสนุนโดย