-->
ขุขันธ์ เมืองเก่า ชนทุกเผ่าสามัคคี บารมีพระแก้วเนรมิตวัดลำภูคู่หลวงพ่อโตวัดเขียน กระอูบ เกวียน ครุน้อย เครื่องจักสาน ปราสาทโบราณเป็นศรี ประเพณีแซนโฎนตา...ต้นไม้จะอยู่ได้ก็เพราะราก ชาติจะอยู่ได้ก็เพราะวัฒนธรรม การทำลายต้นไม้ ง่ายที่สุด คือทำลายที่ราก การทำลายชาติไม่ยาก ถ้าทำลายวัฒนธรรม...ไร้รากเหง้า วัฒนธรรม วิถีชีวิต และจิตวิญญาณ ไร้เรา...

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ปอเทือง ( Sunn hemp) หรือ ធ្មៃផ្កាលឿង /ทเม็ย-พกา-เลือง/ หรือบ้างก็เรียกว่า ស្នោគោក /ซโน*-โกก/

         ปอเทือง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Sunn hemp มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Crotalaria juncea เป็นพืชตระกูลถั่วชนิดหนึ่ง ที่ใช้ปลูกทำปุ๋ยพืชสด

      ภาษาเขมรท้องถิ่นเมืองขุขันธ์ และแถบอีสานใต้ เรียกว่า​...

        ในภาษาเขมรที่กัมพูชา พบใช้ 2 คำ บ้างก็เรียกว่า ធ្មៃ /ทเม็ย*/ (ปอเทือง) หรือ ដើមធ្មៃ /เดอม*-ทเม็ย*/ (ต้นปอเทือง) หรือบ้างก็เรียกว่า ស្នោគោក /ซโน*-โกก/ (โสนโคก)  สำหรับพจนานุกรมพจนานุกรมเขมร ฉบับพุทธศาสนบัณฑิตย์ สมเด็จพระสังฆราช(คณะมหานิกาย) ชวน ณาต โชตัญญาโณ ค.ศ. ๑๙๖๗ (พ.ศ. ๒๕๑๐) ได้นิยามไว้ว่า...
        ធ្មៃ ( ន. ) ឈ្មោះ​តិណជាតិ​ពួក​ក្រចៅ សំបក​ប្រើ​ធ្វើ​ខ្សែ​ជាប់​បាន​យូរ : ខ្សែ​ធ្មៃ​ប្រើ​ជាប់​បាន​យូរ ។ ...(4) (5) 

        ปอเทือง เป็นพืชบำรุงดิน ที่กรมพัฒนาที่ดิน ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกหลังทำนา เนื่องจากปลูกและดูแลง่าย ต้องการน้ำน้อย มีความชื้นเหลืออยู่ในพื้นดินเพียงเล็กน้อยก็เจริญเติบโตได้แล้ว และจะไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสดเมื่อต้นอายุได้ 50-60 วัน การไถกลบปอเทืองลงในแปลงนาเพื่อให้กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ และทำให้ดินร่วนซุย ดินไม่เป็นกรดและสามารถอุ้มน้ำได้ดี รากของปอเทืองยังมีความสามารถตรึงธาตุไฮโตรเจน ซึ่งอยู่ในชั้นสูงของบรรยากาศมาเก็บไว้ที่ปมราก ทำให้เกษตรกรไม่จำเป็นต้องซื้อปุ๋ยวิทยาศาสตร์ หรือยูเรียซึ่งมีราคาแพง สามารถประหยัดต้นทุนในการทำนา และผลผลิตเพิ่มขึ้น ...(1)


       ปอเทือง เป็นพืชตระกูลถั่ว ลักษณะเป็นไม้พุ่มความสูง 100 – 300 เซนติเมตร ลำต้นกลม ใบยาวเรียวแหลม ดอกสีเหลือง ฝักเป็นรูปทรงกระบอก เมล็ดคล้ายรูปไตสีน้าตาล ความยาวประมาณ 6 มิลลิเมตร มี 10 -20 เมล็ด / ฝัก


ประโยชน์ของปอเทือง ปุ๋ยพืชสด มีดังนี้

         1. เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน (น้ำหนักสด 2-7 ตัน/ไร่ = การใส่ปุ๋ยหมัก 800 - 2,800 กก./ไร่ )
         2.บำรุงและรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน เพิ่มธาตุไนโตรเจนซึ่งเป็นธาตุอาหารหลักให้แก่พืช
         3.กรดที่เกิดจากผุผังของพืชปุ๋ยสดช่วยละลายธาตุอาหารในดินให้แก่พืชได้ดีมากยิ่งขึ้น
        4.ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดินและทาให้ดินอุ้มน้ำได้ดีขึ้น เสมือนคลุกเคล้า/ฝังฟองน้ำจำนวนมากไว้ในดิน
       5.ทำให้ดินร่วนซุยสะดวกในการเตรียมดินและไถพรวน เพราะมีอินทรียวัตถุเข้าไปแทรกระหว่างเม็ดดิน
       6. ช่วยในการควบคุม ปราบหรือตัดวงจรวัชพืชบางชนิดได้เป็นอย่างดี พืชปุ๋ยสดที่แนะนำเจริญเติบโตเร็ว
       7. ลดการปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้มาก ใช้ในการเพิ่มธาตุอาหารเพื่อทาเกษตรอินทรีย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
       8.ลดอัตราการสูญเสียอันเกิดจากการชะล้าง รากช่วยเกาะยึดดิน ขณะที่ต้นช่วยคลุมดิน ลดการกระแทกเม็ดฝน
       9. เพิ่มผลผลิตของพืชให้สูงขึ้น เพราะกระบวนการใช้พืชปุ๋ยสดช่วยเพิ่มเติมความเหมาะสมหลายอย่างให้แก่ดิน ...(1)


การเตรียมดินและการปลูก มี 2 วิธี ดังนี้
1. ปลูกโดยไม่ต้องเตรียมดิน
    1.1 ก่อนการเก็บเกี่ยวข้าว ใช้เมล็ดพันธุ์ปอเทืองหว่าน 1 – 2 วัน จึงใช้รถเก็บเกี่ยวข้าว วิธีนี้จะสูญเสียเมล็ดพันธุ์มากจากการกลบของฟางข้าว
    1.2 หลังการเก็บเกี่ยวข้าว ใช้เมล็ดปอเทืองหว่าน ตามร่องรถเกี่ยวข้าว หรือกระจายฟางข้าวให้ทั่วแปลง หรือจะเก็บฟางข้าวไว้เลี้ยงสัตว์ วิธีนี้จะได้ใช้พื้นที่มากขึ้น

2. ปลูกโดยการเตรียมดิน ใช้รถไถขณะดินมีความชื้นอยู่ แล้วหว่านเมล็ดปอเทือง จะคราดกลบหรือไม่ก็ได้ ถ้าคราดกลบจะงอกได้สม่ำเสมอและเจริญเติบโตดี ...(2)

การดูแลรักษา
       หลังการหว่านเมล็ดพันธุ์ปอเทืองแล้วประมาณ 3 – 5 วัน จะงอกโดยอาศัยความชื้นที่มีอยู่ในดิน ไม่ต้องให้น้ำ เมื่ออายุ 50 – 60 วัน ดอกเริ่มบานจากข้างล่างก่อน หลังดอกร่วงโรยจะติดฝักจากข้างล่างก่อนเช่นเดียวกัน ฝักจะแก่เก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ 120 – 130 วัน ศัตรูที่สำคัญได้แก่หนอนผีเสื้อจะเจาะฝักกินเมล็ดข้างใน ...(2)

การเก็บเกี่ยวผลผลิต มี 2 วิธี ดังนี้


         1. ใช้รถเกี่ยวข้าวเก็บเกี่ยว แต่ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากไม่คุ้มกับการลงทุนทั้งเจ้าของรถเกี่ยวคือ ลำต้นจะมีความแข็งเกิดความเสียหายต่อเครื่องจักรสำหรับเกษตรกรผลผลิตค่อนข้างต่ำจึงไม่คุ้มต่อการลงทุน
         2. ใช้เคียวเกี่ยวผึ่งแดดไว้  3 – 4 แดด นำมาใส่กระสอบแล้วทุบให้ฝักแตก หรือนำมากองบนผ้าใบ บนตาข่าย บนลานแล้วใช้รถย่ำในบริเวณแปลงนาได้เลย ผลผลิตเฉลี่ย 80 - 120 กิโลกรัมต่อไร่ ราคาเฉลี่ย 20 – 25 บาทต่อกิโลกรัม จำหน่ายให้สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดและเกษตรกรทั่วไป ...(2)

         สำหรับปีใดที่ประสบวิกฤติภัยแล้ง เกษตรกรส่วนใหญ่ที่ทำนาข้าวหรือปลูกพืชผลชนิดอื่นที่ต้องการใช้น้ำจำนวนมาก ก็คงต้องหาทางเลือกใหม่ เพราะผลผลิตที่เคยได้รับกลับไม่ได้เหมือนอย่างเคย ดังนั้น การปลูกพืชทางเลือกที่ทนแล้งจึงกลายมาเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอดของเกษตรกร และพืชที่น่าสนใจในเวลานี้ก็คือ ปอเทือง พืชที่สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรยามหน้าแล้ง


          เกษตรกรที่มีการปลูกปุ๋ยพืชสด โดยเฉพาะ ปอเทือง จะพบว่า รอบปีต่อไปในการปลูกข้าวหรือพืชเกษตรอย่างอื่นจะมีคุณภาพดีขึ้นและได้รับผลผลิตมากขึ้น ที่สำคัญอีกประการคือ ทำให้สามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ถึงครึ่งหนึ่งจากที่ใช้ปกติ และหากมีการปลูกอย่างต่อเนื่อง 4-5 ปี ถึงขั้นอาจจะไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีเลยก็ได้ ...(3)

          การปลูกปอเทืองเพื่อใช้ปรับปรุงบำรุงดิน  ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝน เพื่อไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสดก่อนการปลูกพืชหลัก แต่การปลูกปอเทือง ช่วงเดือน ตุลาคม ถึงเดือน ธันวาคม เหมาะสำหรับเก็บเมล็ดพันธุ์ เพราะจะได้เมล็ดที่มีคุณภาพ หลังจากเก็บเกี่ยวในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคม ไถกลบต้นตอ ในการปลูก ปีที่ 1 – 2 การเจริญเติบโตไม่ดีนัก หลังจาก 5 ปี ปอเทืองจะเจริญสมบูรณ์ และข้าวที่ปลูกไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีเลย ดังนั้นนอกจากจะเป็นพืชบำรุงดินแล้วยังมีรายได้เสริม 2,000 – 3,000 บาท/ไร่ ...(2)

          และที่สำคัญ ถ้าปลูกปอเทืองในพื้นที่นั้นติดต่อกัน ประมาณ 5 ปี ควรมีการหยุดปลูกสักปีหนึ่ง ด้วยมีสาเหตุมาจาก จะมีปุ๋ยไนโตรเจนมากเกินไป ทำให้ธาตุอาหารในดินไม่สัมพันธ์กัน แต่หลังจากนั้นสามารถปลูกได้เหมือนเดิม ...(3)
 

           การปลูกปอเทืองนั้น ในพื้นที่ 1 ไร่ จะใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 5 กิโลกรัม คิดเป็นต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์ อยู่ที่ประมาณ 100 กว่าบาทเท่านั้น และเมื่ออายุได้ 60 วัน สามารถไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสดได้ จากการคำนวณพบว่า ในพื้นที่ 1 ไร่ จะได้ปริมาณปุ๋ยพืชสดถึง 5,000 กิโลกรัม หากเทียบเป็นปริมาณเนื้อปุ๋ยเคมีแล้ว จะอยู่ที่ 20-25 กิโลกรัม ...(3)

          นอกจากประโยชน์ของปอเทืองทางด้านการเกษตรแล้ว ยังได้ประโยชน์ในแง่ของการท่องเที่ยวอีกด้วย กล่าวคือ สามารถจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ผู้คนได้ไปเที่ยวชมความสวยงาม และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ได้คล้ายๆ กับทุ่งทานตะวัน เพราะทุ่งปอเทืองก็มีความสวยงามไม่น้อยกว่ากันแต่อย่างใด   ด้วยเป็นพืชที่ให้ดอกสีเหลือง เมื่อปลูกเต็มพื้นที่จะให้ความสวยงามมากในช่วงออกดอก 

          อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น น่าจะมีการต่อยอด ทุ่งปอเทืองเมืองขุขันธ์บ้านเรา สำหรับปีหน้า พัฒนาและสนับสนุนให้ชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรชาวไร่ชาวนาบ้านเราเพิ่มพื้นที่ปลูกมากขึ้น และในที่สุด...เราอาจจะได้ชมทุ่งปอเทืองที่สวยงามบานสะพรั่งไปทั้งเมืองก็เป็นได้

ที่มา :
(1)- https://www.youtube.com/watch?v=9iL86bhG9kM
(2)- https://www.gotoknow.org/posts/478988 
(3)-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1427528579
(4)http://dictionary.tovnah.com/?q=ធ្មៃ&btnG=Search&dic=all&criteria=start
(5) ดร.ปริง เพชรล้วน   “ធ្មៃផ្កាលឿង (ปอเทือง)  ដើមធ្មៃផ្កាលៀង(ต้นปอเทือง)...”


ดร.วัชรินทร์ สอนพูด ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์
นายสุเพียร คำวงศ์ เลขานุการสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์

สนับสนุนโดย