-->
ขุขันธ์ เมืองเก่า ชนทุกเผ่าสามัคคี บารมีพระแก้วเนรมิตวัดลำภูคู่หลวงพ่อโตวัดเขียน กระอูบ เกวียน ครุน้อย เครื่องจักสาน ปราสาทโบราณเป็นศรี ประเพณีแซนโฎนตา...ต้นไม้จะอยู่ได้ก็เพราะราก ชาติจะอยู่ได้ก็เพราะวัฒนธรรม การทำลายต้นไม้ ง่ายที่สุด คือทำลายที่ราก การทำลายชาติไม่ยาก ถ้าทำลายวัฒนธรรม...ไร้รากเหง้า วัฒนธรรม วิถีชีวิต และจิตวิญญาณ ไร้เรา...

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บารมีพระพุทธรูปองค์พระจังหันอุ่น เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา

ทัศนียภาพบริเวณด้านหน้าวัดพระพรหมรัตน์ จังหวัดเสียมเรียบ พระราชอาณาจักรกัมพูชา (ถ่ายเมื่อ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2562)
            มูลเหตุที่พุทธบริษัทแต่สมัยโบราณได้สร้างองค์พระปางปรินิพพาน ประดิษฐานไว้ภายในพระอุโบสถวัดพระพรหมรัตน์ แห่งเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ในช่วงปี พ.ศ.1900 - 2043 นั้น ได้มีเรื่องเล่าขานเป็นตำนานต่อๆกันมาว่า
พระพุทธรูปองค์พระจังหันอุ่น วัดพระพรหมรัตน์
จังหวัดเสียมเรียบ พระราชอาณาจักรกัมพูชา (ถ่ายเมื่อ 19 กรกฎาคม 2559) 



กาลครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณพันกว่าปีมาแล้ว  มีพระเถระรูปหนึ่งมักจะนิมนต์ออกบิณฑบาตโปรดพุทธศาสนิกชนโดยทางเรือผ่านบึงโตนเลสาปไป-กลับระหว่างกรุงลงแวกกับชุมชนเมืองมหานครเก่า เมื่อกลับมาถึงบริเวณวัดแห่งนี้ในอดีต แม้จะวันเวลาจะผ่านข้ามมาหลายวันแล้ว แต่เมื่อพระเถระรูปนั้นเปิดฝาบาตรออก ปรากฏว่าจังหัน(ข้าวในบาตร)ที่พระคุณเจ้าได้ไปรับบิณฑบาตมายังคงมีไออุ่นพวยพุ่งหอมกรุ่นอยู่ตลอดเวลา เป็นที่อัศจรรย์ของผู้คนซึ่งได้พบเห็น  มหาชนในยุคนั้นจึงต่างพากันขานถวายพระนามว่า "พระคุณเจ้าจังหันอุ่น"

ต่อมาวันหนึ่ง ภายหลังจากที่พระคุณเจ้าจังหันอุ่น  กลับจากนิมนต์ไปบินฑบาตโดยทางเรือ ระหว่างทางได้มีปลาฉลามยักษ์โผล่หัวขึ้นมาและงับลำเรือแตกออกเป็นสองเสี่ยง  โดยส่วนแรกซึ่งเป็นด้านท้ายเรือได้ลอยไปถึงบริเวณซึ่งเป็นหน้าวัดบริบูรณ์  จังหวัดกำปงฉนัง ในปัจจุบัน  พุทธบริษัทที่นั่นจึงได้นำเอาไม้ลำเรือส่วนนี้มาสร้างเป็นองค์พระพุทธรูปในอริยบททรงประทับยืน  และอีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนหัวเรือได้ลอยน้ำรี่ออกมาอย่างรวดเร็ว และนำพาพระคุณเจ้าจังหันอุ่นมาถึงบริเวณหน้าวัดวัดพระพรหมรัตน์แห่งนี้ในอดีต โดยน้ำมิอาจเล็ดลอดเข้าสู่ลำเรือได้ทันแม้แต่เพียงหยดเดียว  เป็นที่อัศจรรย์ใจแก่พุทธบริษัทในยุคนั้นยิ่งนัก จึงได้พากันนำเอาไม้ลำเรือมาสร้างเป็นพระพุทธรูปอริยาบทปรินิพพาน ประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถวัดพระพรหมรัตน์ เดิมทีจุดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธ์องค์นี้ จะอยู่ในระดับที่สูงมาก  แต่ในปัจจุบันจะสังเกตุพบว่า พระพุทธรูปองค์พระจังหันอุ่นนั้น ประดิษฐานในระดับที่ลึกลงไปกว่าระดับพื้นปกติของพระอุโบสถ ก็เนื่องจาก ตลอดระยะเวลาหนึ่งพันกว่าปี แผ่นดินแถบนี้มีการงอกพอกพูนสูงขึ้นเรื่อยๆมาทีละนิด  จึงทำให้เราเห็นองค์พระพุทธรูปจังหันอุ่น อยู่ในระดับที่ลึกกว่าพื้นปกติของพระอุโบสถในปัจจุบัน นั่นเอง

หากท่านมีความประสงค์เข้าไปเห็นและสัมผัสบารมีด้วยตัวท่านเอง และกราบไหว้ขอพรจากพระพุทธรูปจังหันอุ่น เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต เชิญท่านเข้าไปในพระอโบสถของวัดพระพรหมรัตน์ได้  โดยให้น้อมดวงจิตให้สงบนิ่งและทำจิตใจให้บริสุทธิ์  ผลานิสงส์จักบังเกิดแก่ท่านและจักทำให้ท่านประสบแต่ความสุขควาเจริญเป็นแน่แท้


สำหรับ ลำเรือสีทองที่อยู่ด้านหน้าวัดนี้ พระชาคโร  ต็อง-เตือม ได้ก่อสร้างไว้เพื่อเป็นที่ระลึก สำหรับให้มหาชนรุ่นหลังได้ทราบเกี่ยวกับความเป็นมาของวัด และที่มาของการสร้างพระพุทธรูปองค์พระจังหันอุ่น นั่นเอง


ที่มา : สุเพียร คำวงศ์ แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทยจากป้ายประวัติของพระพุทธรูปองค์พระจังหันอุ่น วัดพระพรหมรัตน์ จังหวัดเสียมเรียบ พระราชอาณาจักรกัมพูชา(19 กรกฎาคม 2559)


ดร.วัชรินทร์ สอนพูด ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์
นายสุเพียร คำวงศ์ เลขานุการสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์

สนับสนุนโดย