ในปี พ.ศ. 2382 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.3) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ยกทัพจากกรุงเทพฯ ไปปราบปรามความ วุ่นวายในกรุงกัมพูชา เนื่องจากพระองค์อิ่มซึ่งมีตำแหน่งเป็นพระศรีไชยเชษฐามหา อุปราชได้อพยพครอบครัวเมืองพระตะบองไปเข้าด้วยเวียดนาม ดังปรากฏความใน ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชาว่า “ฝ่ายสมเด็จพระศรีไชยเชษฐา ซึ่งประทับอยู่ที่เมืองพระตะบองนั้น ครั้นถึง ณ วันขึ้น 1 ค่ำ เดือนยี่ ปีกุญ เอกศก ศักราช 1201 (พ.ศ. 2382) ก็ทรงให้จับตัวพระยา ปลัดรส กับกรมการเมืองพระตะบองบางคนได้แล้ว พระองค์จึงทรงพาพระมารดาแลพระแม่นางพร้อมด้วยบุตรีบุตราเสด็จออกจากเมืองพระตะบองมาเมืองพนมเปญ องเลิ้งกันจึงให้คุมพระองค์แลครอบครัวของพระองค์ส่งไปเมืองญวน....
เวลานั้นประเทศกัมพูชาเกิดสงครามกลางเมืองด้วยเวียดนามเข้ามาแทรกแซง และพยายามยึดครองกัมพูชาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเวียดนาม ขุนนางเวียดนามชื่อ องเลิ้งกัน ผู้รักษาเมืองพนมเปญ บังคับทำความเดือดร้อนต่าง ๆ ให้กับขุนนางและ ประชาชนชาวเขมรเป็นอันมาก ทั้งบังคับให้แต่งกายอย่างชาวเวียดนามและเปลี่ยนชื่อขุนนางเขมรเป็นภาษาเวียดนาม ทำลายวัดวาอารามรวมทั้งคัมภีร์ทางพระพุทธ ศาสนาเสียหายเป็นจำนวนมาก
เจ้าพระยาบดินทรเดชายกทัพออกมากรุงกัมพูชาครั้งนี้ต้องทำสงครามกับเวียดนามเป็นเวลานานหลายปี ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ จนในที่สุดเมื่อปี พ.ศ. 2385 เจ้าพระยาบดินทรเดชาและพระองค์ด้วง จึงมาประทับอยู่ที่เมืองพนมเปญ เวลานั้น เจ้าพระยาบดินทร์เดชาเห็นความทรุดโทรมของวัดวาอารามต่างๆ ภายในเมืองพนมเปญ ที่เสียหายระหว่างสงครามจึงมีใจศรัทธาบูรณะวัดพระพุทธโฆสาจารย์ในเมืองพนมเปญ พร้อมทั้งได้จารึกเรื่องราวของการบูรณะวัดพระพุทธโฆสาจารย์ เมืองพนมเปญไว้เป็น ภาษาและอักษรไทยอีกด้วย
เอกสารอ้างอิง :
ดำรงวิชาการ. (2023). Su.ac.th. http://www.damrong-journal.su.ac.th/upload/pdf/68_11.pdf
ขอบคุณภาพประกอบจาก ศานติ ภักดีคำ, & Bass. (2023, February 10). เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) กับบทบาทสร้างเมืองใหม่ในกัมพูชา. ศิลปวัฒนธรรม. https://www.silpa-mag.com/history/article_43224