วัดกลาง ขุขันธ์ ริเริ่มก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2429 โดยพระยาบำรุงปุระจันต์ (จันดี) ข้าหลวงกำกับราชการเมืองขุขันธ์ ในช่วงที่ท่านดำรงตำแหน่งเป็นพระรัตนโกศา ปลัดเมืองขุขันธ์ (พ่อตาของเจ้าเมืองขุขันธ์ท่านที่ 9) พร้อมด้วยเจ้าเมืองขุขันธ์ ท่านที่ 9 คือพระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (ท้าวปัญญา ขุขันธิน - พุทธศักราช 2426- 2440) พร้อมด้วย กรมการเมืองและราษฏร เห็นว่า วัดสะอาง ซึ่งเป็นที่ของพระหลักคำอุด (เจ้าคณะเมืองขุขันธ์) ที่ว่าราชการเมืองขุขันธ์เดิมในสมัยเจ้าเมืองขุขันธ์ ท่านที่ 3 พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน ( ท้าวบุญจันทร์ - พุทธศักราช 2327 - 2326) และบริเวณ วัดบกจันทรนคร ที่เคยเป็นวัดประจำเมือง และเคยใช้เป็นที่ถือน้ำพิพัฒน์สัตยา อยู่ห่างไกลย่านชุมชนไปมาและติดต่อลำบาก จึงเห็นพ้องต้องกันว่า สถานที่บริเวณแห่งใหม่นี้ อยู่กึ่งกลางระหว่างวัดและหมู่บ้านต่าง ๆ ซึ่งต่างอยู่รอบเมืองในขณะนั้น ถ้าได้สร้างเป็นวัดประจำเมืองก็จะเป็นผลดียิ่ง จึงได้พร้อมใจกันอาราธนา พระครูธรรมจินดามหามุนี เจ้าคณะใหญ่เมืองขุขันธ์ (สมัยยังเป็นพระหลักคำอุด) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพระยาบำรุงปุระจันต์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ก็ได้เกณฑ์นักโทษถางป่าบริเวณนั้น แล้วสร้างเสนาสนะขึ้น เรียกว่า "วัดกลาง" และอุโบสถ โดยบริเวณที่ตั้งอุโบสถวัดกลาง อำเภอขุขันธ์ ได้สร้างคร่อมทับปราสาทขอมโบราณอันเป็นศูนย์กลางหลักของเมืองขุขันธ์ที่ชื่อว่า ปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวน ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ว่า พื้นตั้งของอุโบสถวัดกลางในอดีต จะมีลักษณะเป็นเนินสูง นั่นเอง
เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ ทางราชการในขณะนั้น ก็ได้ถือเอาวัดนี้เป็นวัดประจำเมือง และเป็นที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาแทนวัดบกจันทร์นคร วัดแห่งนี้จึงเป็นเป็นวัดใหญ่และมีความเจริญรุ่งเรืองกว่าวัดอื่น ๆ ในยุคสมัยนั้น
พระครูโสภิตธรรมขันธ์ (เอี้ยง ภคคุโณ) ผู้ก่อตั้งโรงเรียนขุขันธ์ราษฎร์บำรุง |
ในปัจจุบัน บริเวณวัดกลาง ก็ยังเป็นเป็นที่ตั้งของโรงเรียนขุขันธ์ราษฎร์บำรุง ซึ่งเป็นแหล่งศึกษาเล่าเรียนของพระภิกษุสามเณร และบุตรหลานที่อยู่ในอำเภอขุขันธ์ และอำเภอใกล้เคียงอีกด้วย