วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ปราสาทพระจำรุง(ប្រាសាទព្រះជម្រុង Prasat Preah Jam Rung) ตำบลดองกำเม็ด อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ

ปราสาทพระจำรุง(ប្រាសាទព្រះជម្រុង Prasat Preah Jam Rung) เป็นศาสนสถานขอมโบราณที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอดีตเมืองขุขันธ์อันยิ่งใหญ่(ស្រុកគោកខណ្ឌ​ ឬ ស្រុកស្តុកគោកខណ្ឌ)​ มีลักษณะเป็นอโรคยศาลา ตัวปราสาทปัจจุบันผุพังสูญสลายไปแล้ว ยังคงเหนือแต่เนินดินอันเป็นที่ตั้งของตัวปราสาท มีลักษณะเป็นเนินดินสี่เหลี่ยมจตุรัส ล้อมรอบด้วยสระน้ำโบราณ ขนาดเล็ก จำนวน 5 สระลักษณะเป็นการจำลองปัญจมหานที(แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 5 สายที่อินเดีย)ไว้โดยรอบตัวปราสาท ด้านทิศตะวันตก มีบารายโบราณขนาดกลาง(ยังไม่ทราบชื่อว่าชาวบ้านเรียกว่าอย่างไร)  ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของตำบลดองกำเม็ด อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางหมู่บ้านบิงใต้ หมู่ที่ 11 ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 500เมตร
พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา ศิลปะขอมโบราณ
ที่ขุดพบที่ปราสาทพระจำรุง(ប្រាសាទព្រះជម្រុង) สร้างจากหินทราย 
ในอดีตคงแกะสลักเป็นรูป
พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาไว้ทั้ง 4 ด้าน แต่ปัจจุบันคงเหลือ 2 ด้าน เป็นรูปเคารพในพระพุทธศาสนาลัทธิมหายาน เป็นพระพุทธเจ้าแห่งการแพทย์ พระหัตถ์ทั้งสองถือหม้อน้ำ ขัดสมาธิราบบนฐานสลักลายกลีบบัว ทรงมงกุฎและกุณฑล เชื่อกันว่าพระไภษัชยคุรุ มีความศักดิ์สิทธิ์สามารถบันดาลให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้
ที่ตั้ง บ้านบิงใต้ หมู่ที่ 11 ตำบลดองกำเม็ด อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ บริเวณเส้นรุ้ง(Longtitude)ที่ 14 องศา 46 ลิปดา 13.3 ฟิลิปดา เหนือ(14°46'13.3"N) และเส้นแวง(Latitude)ที่ 104 องศา 12 ลิปดา 02.5 ฟิลิปดาตะวันออก(104°12'02.5"E) พิกัดบนGoogle Map :14.770360, 104.200684



แผนที่ตั้งของปราสาทพระจำรุง(ប្រាសាទព្រះជម្រុង Prasat Preah Jam Rung)

องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม
      
สันนิษฐานว่าเป็นปรางค์เป็นปรางค์รูปเดี่ยวขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนศิลาแลง(รอการขุดค้นและพิสูจน์ศึกษา)

หมายเหตุ สำหรับ ศิลาแลง หรือภาษาเขมรโบราณเมืองขุขันธ์ เรียกว่า ถมอ-บายเกรียม(ថ្មបាយក្រៀម) นั้น จากคำบอกเล่าของปราชญ์ชาวบ้านในพื้นที่บอกไว้ว่า ศิลาแลง สามารถพบได้ในพื้นที่ละแวกใกล้เคียงตัวปราสาทนี้หลายแห่ง หากขุดลึกลงไปใต้ดินประมาณ 4 เมตรขึ้นไปก็จะเจอเป็นจำนวนมาก หรือข้อสังเกตประการหนึ่ง หากชาวบ้านแถบนี้จะขุดบ่อเพื่อเอาน้ำมาดื่มกินกันนั้น ก็จะนิยมขุดบ่อไม่ลึกเกิน 3 เมตร เพราะถ้าหากขุดลึกกว่า 3เมตรขึ้นไป จะได้น้ำที่มีสนิมเหล็ก(rust) เจือปน กล่าวคือเมื่อเราขุดบ่อเสร็จใหม่ๆ จะได้น้ำใต้ดินครั้งแรกน้ำจะยังคงดูใสสะอาด แต่ผ่านไปอีกไม่นานธาตุเหล็กในน้ำจะทำปฏิกิริยากับอากาศในบริเวณนั้น ก็จะทำให้น้ำเปลี่ยนเป็นสีแดงๆคล้ายสนิมเหล็ก ซึ่งภาษาเขมรโบราณเมืองขุขันธ์ เรียกว่า ตึกสลาบฺปแดก(ទឹកស្លា័ប្បដែក) ไม่สามารถเอามาดื่มกินได้นั่นเอง

อายุสมัย
ราวพุทธศตวรรษที่ ....(รอการขุดค้นและพิสูจน์ศึกษา)

การประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
ยังไม่ได้ประกาศฯ

การประกาศกำหนดขอบเขตโบราณสถาน
ยังไม่ได้ประกาศฯ

สภาพปัจจุบัน
อยู่บนพื้นที่นาของชาวบ้านบิง และขาดการเหลียวแลจากผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ สอบถามชาวบ้านว่าเคยมีผู้มาขอขุดค้นหาสมบัติและวัตถุโบราณ ที่บริเวณปราสาทและละแวกใกล้ปราสาทดังกล่าวอยู่เนืองๆ
ฐานแท่นศิวลิงค์ และฐานปฏิมากรรมที่ขุดพบ
ภาชนะเครื่องปั้นดินเผาที่ขุดพบ

 
ชิ้นส่วนของภาชนะเครื่องปั้นดินเผาที่ขุดพบ
 
พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา (Phra Bhaisajyaguru Vaitoonprapha
(Medicine Buddha)) ศิลปะแบบขอมโบราณ
ที่ขุดพบที่ปราสาทพระจำรุง(ប្រាសាទព្រះជម្រុង)


ผู้เรียบเรียง
    นายสุเพียร คำวงศ์ เลขานุการสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์
ขอขอบคุณคณะผู้ให้ความร่วมมือในการสืบค้น
    นายขวัญชัย ไชยโพธิ์ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์
    พระสรรพสิทธิ์ ปภาโส(หลวงตาพัน) สำนักสงฆ์พิหารตรางสวาย
ดร.ปริง เพชรล้วน ที่ปรึกษาสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์
นายนิติภูมิ ขุขันธิน กรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอขุขันธ์