
มีตำนานเล่าต่อกันมาว่า วัดเขียน ก่อสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๓๒๓ สมัยกรุงธนบุรี โดยพระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน (เชียงขันธ์) เจ้าเมืองขุขันธ์ ท่านที่ ๒ หลังจากย้ายเมืองมาจากบ้านปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวน ไปตั้งที่บริเวณหนองแตระ ยกฐานะเป็นเมืองชื่อ "เมืองขุขันธ์" แล้ว สมัยนั้นได้ค้นพบว่ามี องค์พระพุทธรูปประดิษฐานในป่าทึบด้านชายเมืองทางทิศอาคเนย์ จึงได้ให้ราษฏร์แผ้วถาง แล้วปรับปรุงสร้างฐานและหลังคาครอบองค์พระพุทธรูป สร้างกุฏิและนิมนต์พระภิกษุสามเณรมาอยู่ประจำวัด แต่ยังไม่เรียบร้อยดี ก็มีเหตุต้องพ้นจากตำแหน่งเจ้าเมือง วัดจึงร้างไป
พ.ศ. ๒๔๒๕ สมัย พระยาขุขันธ์ภักดีศรีนครลำดวน ( ท้าววัง ) เจ้าเมืองขุขันธ์ ท่านที่ 8 ร่วมกับ ท่านพระครูธรรมจินดามหามุณี เจ้าคณะใหญ่เมืองขุขันธ์ ร่วมกับ กรมการเมืองได้นำราษฎร พัฒนาบูรณะวัดเขียน ซึ่งขณะนั้น บริเวณวัดเขียน ยังมีลักษณะเป็นป่าดงขึ้นหนาทึบ และยกฐานะขึ้นเป็นวัด โดยจัดพระภิกษุจากวัดสะอางมาอยู่ประจำ และเนื่องจากวัดนี้อยู่ทางทิศตะวันออกของตัวเมืองขุขันธ์ จึงให้ชื่อว่า "วัดเขียนบูรพาราม" มาจนกระทั่งปัจจุบัน

พิกัดGPS ของวัดเขียนบูรพาราม บน Google Map
คือ14°42'58.1"N 104°12'20.4"E หรือ 14.716143, 104.205654
หลวงพ่อโตวัดเขียนบูรพาราม ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถวัดเขียนบูรพาราม ตั้งอยู่ที่บ้านพราน หมู่ที่ ๔ ตำบลห้วยเหนือ อำเภอขุขันธ์ จังหวัด ศรีสะเกษ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทอง ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๓.๕๐ เมตร สูง ๖.๘๐ เมตร มีลักษณะศิลปะที่ผสมผสานกันระหว่างศิลปะล้านช้าง และศิลปะอยุธยาตอนปลาย
หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงาม ใหญ่โตและเก่าแก่ซึ่งซึ่งมีเรื่องราวความเป็นมา และเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองขุขันธ์มานานกว่า ๒๕๐ ปี(นับแต่ พ.ศ. ๒๓๐๒) โบสถ์วัดเขียนบูรพาราม
ตั้งอยู่ที่บ้านพราน หมู่ที่ ๔ ตำบลห้วยเหนือ อำเภอขุขันธ์ จังหวัด ศรีสะเกษ เส้นรุ้ง ๑๔๑๗๙๙ เส้นแวง ๑๐๔๑๒๓๑ พิกัดกริด ๔๘ PVB ๑๔๙๒๖๘ แผนที่ ๕๘๓๘ III L ๗๐๐๑๗ โบราณสถานที่สำคัญ ได้แก่ อุโบสถซึ่งสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ผนังและฐานของอุโบสถก่อด้วยอิฐฉาบปูน หลังคาเป็นโครงไม้สังกะสี ที่ขอบโครงหลังคาโดยรอบ แกะสลักเป็นลายพันธ์พฤกษา ส่วนที่จั่วแกะสลักเป็นภาพในเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งแกะสลักขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ เรียกว่า “หลวงพ่อโต”